คอลเล็คชั่นนาฬิกาของผมในปี พ.ศ.2565

ใกล้จะสิ้นปี 2565 แล้วนะครับ ผมเลยอยากจะใช้โอกาสนี้อัพเดทนาฬิกาที่อยู่ในคอลเล็คชั่นของผมในปีนี้และ นาฬิกาที่ผมวางแผนว่าจะซื้อไว้ในครอบครองในอนาคต พร้อมทั้งเหตุผลว่าทำไมผมถึงอยากได้นาฬิกาเหล่านั้นนะครับ

โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบที่จะฟังเรื่องราว คอลเล็คชั่นนาฬิกาของบุคคลต่างๆ โดยเฉพาะในช่องยูทูปต่างประเทศ จะมีทำ State of The Collection หรือ SOTC ไว้เยอะมาก เพราะคอลเล็คชั่นนาฬิกาของแต่ละคนนั้น ส่วนใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา (ปล่อยของที่มีอยู่ แล้วซื้อเรือนใหม่เข้ามา) ซึ่งทุกๆ คนก็จะมีเรื่องราว เหตุผต่างๆ ในการตัดสินใจ และนั่นคือสิ่งที่ผมสนใจ และรู้สึกสนุกไปกับเรื่องราวเหล่านั้น แถมยังมีเกร็ดความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับนาฬิกา ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน

ผมหวังว่า สิ่งที่ผมเขียนในโพสนี้ จะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยให้กับเพื่อนๆ ที่ชอบและสนใจในนาฬิกา ในแบบเดียวกันครับ

การแบ่งหมวดหมู่ในคอลเล็คชั่นนาฬิกาของผม (เพื่อความเข้าใจในการอ่าน)

เริ่มต้นจาก “คอลเล็คชั่นปัจจุบัน” คือ ผมจะลิสต์นาฬิกาทุกเรือน ที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน พร้อมทั้งระบุ ปีที่ผมได้ซื้อ หรือได้รับมา โดยผมจะแสดงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับนาฬิกาเรือนนั้น และขอเล่าเรื่องราวเบื้องหลังให้เพื่อนๆ ได้รู้ด้วย

หลังจากนั้นจะเป็น “นาฬิกาที่อยากได้” ก็จะเป็น นาฬิกาที่ผมวางแผนว่าอยากจะซื้อในอนาคต พร้อมทั้งความคิดเบื้องหลังในแต่เรือน โดยปกติแล้ว ผมจะตั้งกฎให้กับตัวเอง หรือจะเรียกว่าเป็น “เงื่อนไขส่วนตัว” ก็ได้ เพื่อใช้ในการตีกรอบความคิด ในการสร้างคอลเล็คชั่นนาฬิกาของผมนะครับ

เงื่อนไขส่วนตัวของผม มีอะไรบ้าง? (เผื่อว่าเพื่อนๆ จะเอาไปลองปรับใช้กันได้ ไม่ว่ากันครับ)

ข้อที่ 1 ผมจะมีนาฬิกาได้แค่ยี่ห้อละ 1 เรือนเท่านั้น

ข้อที่ 2 ผมจะมีนาฬิกาได้แค่ 1 เรือน ในแต่ละประเภทเท่านั้น เช่น นาฬิกาดำน้ำ 1 เรือน, นาฬิกาจับเวลา 1 เรือน, นาฬิกา GMT, ฯลฯ

ข้อที่ 3 ผมสามารถมีนาฬิกาประเภทต่างๆ ได้ แต่จะซื้อได้ ต้องมีวาระพิเศษในชีวิต หรือจะต้องประสบความสำเร็จในงานที่ทำเท่านั้น

ข้อที่ 4 ในการซื้อนาฬิกาแต่ละเรือนจะต้องไม่ทำให้มีปัญหาทางด้านการเงิน

ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลยครับ!!

คอลเล็คชั่นปัจจุบัน

นาฬิกา Rolex Submariner Reference 1680

  • ประเภท: นาฬิกาวินเทจ / มรดกตกทอดในครอบครัว
  • ปีที่เข้ามาอยู่ในคอลเล็คชั่น: พ.ศ.2537 / ค.ศ.1994
  • รายละเอียดนาฬิกา:
    • ปีที่ผลิต: ค.ศ.1967-1980 (โดยประมาณ)
    • วัสดุตัวเรือน และคริสตัล: ตัวเรือนเป็นสแตนเลสสตีล หน้าปัดดำ / อะคริลิคพร้อมเลนส์ขยายหน้าต่างวันที่ และสาย Oyster สแตนเลสสตีล
    • ขอบตัวเรือน: วัสดุสแตนเลสสตีลสีดำ หมุนได้ 2 ทิศทาง พร้อมสเกลจับเวลา 60 นาที
    • ขนาดตัวเรือน: เส้นผ่าศูนย์กลาง 40มม / ความกว้างหูสาย 20มม
    • กลไกนาฬิกา: คาลิเบอร์ 1575 (บนพื้นฐานคาลิเบอร์ 1570) กลไกขึ้นลานอัตโนมัติ
    • การกันน้ำ: ความลึก 200 เมตร / 660 ฟุต
    • เกร็ดความรู้: Ref.1680 เป็นรุ่นแรกที่ทาง Rolex เริ่มใส่ฟังก์ชั่นหน้าต่างแสดงวันที่ให้กับ คอลเล็คชั่น Submariner แสดงให้เห็นถึงความเป็นที่นิยมที่เพิ่มขึ้นของ Submariner เพราะหน้าต่างแสดงวันที่ มิได้เป็นฟังก์ชั่นที่จำเป็นสำหรับนาฬิกาดำน้ำ แต่เป็นความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั่วไปมากขึ้น
  • เรื่องราว:

ผมได้รับนาฬิกาเรือนนี้เป็นของขวัญ หรือจะเรียกว่าเป็นรางวัลก็ได้ จากคุณลุงที่ผมเคารพรักมาก ในโอกาสที่ผมสอบเอ็นทรานซ์ติดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เมื่อ 18 ปีที่แล้ว (ในยุคของผมการสอบเอ็นทรานซ์ เป็นเหมือนจุดหลักสำคัญในชีวิตของนักเรียนทุกคน) เรื่องมันเกิดมาจากว่า ผมได้เห็นคุณลุงของผมใส่นาฬิกา Rolex Submariner เป็นครั้งแรก แล้วผมก็รู้สึกว่าทำไมนาฬิกาเรือนนี้มันหล่อ มันเท่ห์มากมายขนาดนี้ จนผมถามข้อมูลต่างๆ มากมาย จนคุณลุงของผมคงรับรู้ถึงความชอบในนาฬิกาเรือนนี้ของผมได้ จนท่านได้เอ่ยปากบอกกับผมว่า “ถ้าสอบเอ็นทรานซ์ติดคณะสถาปัตย์ฯ ได้ ลุงจะซื้อนาฬิกาเรือนนี้ให้”

แล้วผมก็ได้ครอบครอง Submarier มาจนได้ ตอนที่ผมได้รับมาจากคุณลุง นาฬิกาเป็นมือสองมาตัวเปล่า(ไม่มีกล่องใบ) เท่าที่ผมจำได้ ราคาตอนนั้นยังอยู่ในหลักหมื่น ผมใส่นาฬิกาเรือนนี้แทบจะทุกวัน ตลอดช่วงเวลาที่ผมอยู่มหาวิทยาลัย จนจบปริญญาตรี จนไปถึงช่วงเวลาที่ผมไปศึกษาต่อปริญญาโท ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อไปถึงช่วงชีวิตการทำงานช่วงแรกๆ ที่ผมได้มีโอกาสไปต่างประเทศเยอะมาก เช่นเยอรมัน อิตาลี จีน แคนาดา ฯลฯ เจ้า Submariner เรือนนี้ไปกับผมทุกที่ (จะเห็นได้จากสภาพตัวเรือน ที่แสดงให้เห็นถึงการใช้งานแบบจริงจัง ไม่ได้ถนุถนอมแต่อย่างใด) 

ทุกวันนี้ ถึงผมจะไม่ได้ใส่นาฬิกาเรือนนี้บ่อยเหมือนเมื่อก่อน (ใส่เฉพาะช่วง เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดสุดสัปดาห์) แต่ไม่น่าเชื่อว่านาฬิกายังคงเดินปกติ เที่ยงตรงในระดับที่มันควรจะเป็น ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ผมยอมรับเลยครับว่า Rolex ผลิตนาฬิกาที่ อด ถึก ทน แต่ก็ยังคงความสวย และความมีเอกลักษณ์ที่เป็น Iconic Watch อย่างที่ทุกคนรู้กัน

นาฬิกา Swatch Quartz Chronograph

  • ประเภท: นาฬิกาใส่เล่น / มรดกตกทอดในครอบครัว
  • ปีที่เข้ามาอยู่ในคอลเล็คชั่น: จำไม่ได้จริงๆ ครับ
  • รายละเอียดนาฬิกา:
    • วัสดุตัวเรือนและสาย: สแตนเลสสตีล 
    • ขนาดตัวเรือน: ความกว้างตัวเรือน 43มม / หนา 12.67มม / ความยาวตัวเรือน 49มม
    • กลไกนาฬิกาควอทซ์
    • การกันน้ำ: 30ม
    • เกร็ดความรู้: เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า เพื่อนๆ สามารถนำนาฬิกา Swatch มาเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ที่ช้อป โดยไม่เสร็จค่าใช้จ่ายใดๆ ตลอดอายุการใช้งาน
  • เรื่องราว:

เท่าที่จำได้ผมเห็นนาฬิกาเรือนนี้ครั้งแรกบนข้อมือคุณพ่อของผมนานมากๆ แล้ว ผมยังจำความรู้สึกได้ว่ามันดูเท่ห์อย่างบอกไม่ถูก ณ ตอนนั้นยังเป็นสายสแตนเลสสตีล แต่ผมก็จำไม่ได้นะครับว่า ผมได้บอกคุณพ่อรึป่าวว่าผมอยากได้นาฬิกาเรือนนี้ แต่ผมกลับมาเจอนาฬิกาเรือนนี้อีกครั้งในลิ้นชักโต๊ะทำงานของผม เมื่อตอนที่ผมกลับไปเก็บของในห้องของผมที่บ้านของคุณพ่อ คุณแม่ เมื่อครั้งที่ท่านขายบ้านหลังนั้น เพื่อย้ายไปอยู่บ้านใหม่กัน

แต่ในครั้งที่ผมเห็นเจ้า Swatch เรือนนี้อีกครั้ง หลังจากที่เริ่มมีความรู้เกี่ยวกับนาฬิกามากขึ้น มันทำให้ผมนึกถึงเจ้า “Speedy” Omega Speedmaster Professional (ณ ตอนนั้นเรายังไม่มี MoonSwatch ให้รู้จักกันนะครับ) ดังนั้นผมเลยตัดสินใจเก็บนาฬิกาเรือนนี้ไว้ เพราะผมนึกอยู่ในใจว่า ผมน่าจะทำอะไรสนุกๆ กับเจ้า Swatch เรือนนี้ได้แน่ๆ แล้วเมื่อต้นปี พ.ศ.2565 นี้เอง ผมได้ไปที่ช้อปของ Swatch เพื่อนำนาฬิกาไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ แล้วก็โชคดีครับที่นาฬิกามันยังเดินได้ปกติ แต่ระบบจับเวลามันทำงานไม่สมบูรณ์ (และอีกไม่นาน เข็มจับเวลาก็ไม่ทำงานแบบถาวร) เมื่อนาฬิกายังเดินได้ ผมเลยตัดสินใจเปลี่ยนสายจากเดิมที่เป็นสแตนเลสสตีล เป็นสายหนังสีน้ำตาล จับคู่กับหน้าปัดสีดำของนาฬิกาได้อย่างดี (น่าเสียดายที่ นาฬิกา Swatch ไม่สามารถใช้สายทั่วไปในท้องตลาดได้นะครับ)

นานๆ ที ผมถึงจะใส่เจ้า Swatch เรือนนี้ แต่ทุกครั้งที่ผมได้ใส่ ผมจะนึกถึงภาพความทรงจำตอนที่ผมยังเป็นเด็ก และนึกถึงเรื่องราวระหว่างคุณพ่อกับผม มันเป็นความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกนะครับ

นาฬิกา Apple Watch Series 7 ขนาด 45มม วัสดุ Stainless Steel สีเงิน

  • ประเภท: สมาร์ทว็อช
  • ปีที่เข้ามาอยู่ในคอลเล็คชั่น: ต้นปี พ.ศ.2565 / ค.ศ.2022
  • รายละเอียดนาฬิกา:
    • วัสดุตัวเรือนและสาย: ตัวเรือนสแตนเลสสตีลขัดเงา และสายสแตนเลสสตีลถัก (Milanese Style Bracelet) 
    • โปรเซสเซอร์: S7 64-bit dual core / W3 Apple wireless chip / U1 Chip (Ultra Widebrand)
    • ขนาดตัวเรือน: สูง 45มม กว้าง 38มม หนา 10.7มม
    • ฟังก์ชั่น:
      • GPS + Cellular with Wi-Fi & Bluetooth connectivity
      • Always on display
      • Blood Oxygen Sensor
      • Electrical Heart Sensor
      • Fall Detection
      • Sleeping Sensor
      • และอื่นๆ อีกมากมาย 
    • การกันน้ำ: 50ม (ใส่ว่ายน้ำ และเล่นกีฬาทางน้ำได้)
    • เกร็ดความรู้: เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า Apple Watch รุ่นแรก มีชื่อเรียกว่า Apple Watch Series 0 (Zero)
  • เรื่องราว:

คนในครอบครัว และเพื่อนๆ ของผมรู้กันเป็นอย่างดีว่า ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ Apple ผมใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ชิ้นแรกคือ iMac G3 (รุ่นที่เป็นจอทีวี แล้วก็มีสีให้เลือก 5 สี น้ำเงิน, แดง, เขียว, เหลือง, และสีม่วง) และแน่นอนครับผมใส่ Apple Watch ตั้งแต่รุ่นแรกที่ออกมา แล้วก็อัพเดทรุ่นใหม่มาเรื่อยๆ

สำหรับการอัพเดทครั้งนี้นั้น ผมเลือกรุ่นที่เป็นตัวเรือนสแตนเลสสตีล ถึงแม้ว่าจะราคาสูงกว่ารุ่นที่เป็นตัวเรือนอลูมิเนียมพอสมควร แต่ฟังก์ชั่นแทบจะไม่ต่างกัน เหตุผลหลักๆ ก็คือความบ้านาฬิกาของผม ที่ผมอยากจะใส่ สมาร์ทว็อชที่มีหน้าตาเหมือนกับนาฬิกากลไกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ไม่อยากให้เหมือนใส่ Gadget)

โดยปกติแล้ว ผมจะใส่เจ้า Apple Watch เวลาที่ผมออกกำลังกาย เช่น วิ่ง ตีเทนนิส ว่ายน้ำ และผมก็จะใส่เข้านอนแทบจะทุกคืน ต้องยอมรับครับว่า ผมเป็นคนที่ชอบติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ และก็ยังมีความอยากลองฟีเจอร์ใหม่ๆ ตลอดเวลา (โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ของ Apple) ดังนั้นเจ้า Apple Watch ต้องอยู่ในคอลเล็คชั่นของผมอย่างไม่ต้องสงสัย

นาฬิกา Seiko 5 Reference SNXS73K1 (หรือที่ใครๆ เรียกกันว่า Seiko ‘Date Just’)

  • ประเภท: นาฬิกาใส่สบายๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์
  • ปีที่เข้ามาอยู่ในคอลเล็คชั่น: พ.ศ.2564 / ค.ศ.2021
  • รายละเอียดนาฬิกา:
    • วัสดุตัวเรือนและคริสตัล: สแตนเลสสตีล ส่วนกระจกเป็น Hardlex Crystal
    • หน้าปัด: เป็นหน้าปัดสีเงิน Sun Burst และหลักชั่วโมงเป็นแบบ Applied Markers พร้อมพรายน้ำ
    • ขนาดตัวเรือน: เส้นผ่าศูนย์กลาง 37มม / หนา 12มม / หูสายกว้าง 19มม
    • กลไกนาฬิกาSeiko Caliber 7S26 ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ สำรองพลังงานได้
    • การกันน้ำ: 30ม
    • เกร็ดความรู้: เลข ‘5’ ที่อยู่ในชื่อ Seiko 5 มีที่มาจากคุณสมบัติ 5 อย่างที่นาฬิกา Seiko 5 ทุกเรือนจะต้องมีคือ
      • กลไกขึ้นลานอัตโนมัติ
      • หน้าต่างแสดงวัน และวันที่
      • การกันน้ำ
      • เม็คมะยมแบบซ่อนที่ 4 นาฬิกา
      • ตัวเรือนออกแบบให้มีความทนทาน
  • เรื่องราว:

ผมจำได้แม่นเลยว่า ผมเห็นนาฬิกาเรือนนี้ครั้งแรกจากช่อง ‘Pond Review’ และช่อง ‘Wimol Tapae’ ที่คุณปอน์ด และคุณบอส ใจตรงกันมารีวิวนาฬิกาเรือนนี้ในเวลาใกล้ๆ กัน หลังจากที่ผมดูรีวิว ก็คือผมโดนป้ายยาเต็มๆ ไม่เพียงแต่ช่องยูทูปคนไทยนะครับ เหล่า YouTuber ต่างประเทศ พร้อมใจกันสดุดี เจ้า Seiko เรือนนี้ว่าเป็น หนึ่งในนาฬิกาที่คุ้มค่าที่สุดในงบไม่เกิน 100 ดอลล่าห์ (ประมาณ 3 กว่าบาท)

ดังนั้นเมื่อปีที่แล้ว ผมจึงตัดสินใจสั่งนาฬิกาเรือนนี้ โดยที่ยังไม่เคยเห็นเรือนจริงด้วยซ้ำ (เป็นช่วงโควิดกำลังระบาดอย่างหนัก) ผมบอกเพื่อนๆ ทุกคนได้เต็มปากเลยครับว่า นาฬิกาเรือนนี้คุ้มค่าทุกบาท ทุกสตางค์ ที่จ่ายไป จริงๆ ผมได้รับคำชม จากคนรอบๆ ตัวเยอะมาก และคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเจ้า Seiko เรือนนี้ราคาสูงกว่าสามพันบาทไปไกลมาก

ผมชอบในความใส่สบายของนาฬิกาเรือนนี้ แถมยังสามารถอ่านเวลาได้อย่างรวดเร็ว (พรายน้ำก็ชัดแจ๋วเต็มตา แต่ก็จะไม่สว่าง และนานเท่ากับพวกนาฬิกาดำน้ำ) ผมไม่ค่อยซีเรียสกับความเที่ยงตรงของเจ้า Seiko เรือนนี้ (-20/+40 วินาที ต่อวัน) เนื่องด้วยราคาของมัน และส่วนใหญ่ผมจะใส่เจ้า Seiko เฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ หรือไม่ก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดใกล้ๆ

ข้อด้อยอีกหนึ่งจุดของนาฬิกาเรือนนี้นอกจากความเที่ยงตรง ก็คือสายเหล็กพับที่มากับตัวเรือน คุณภาพก็ตามราคา และเวลาใส่ ขยับข้อมือจะมีเสียงดังตลอดเวลา ดังนั้นสิ่งแรกที่ผมทำเมื่อได้รับนาฬิกาเรือนนี้มาคือ ผมจับเปลี่ยนเป็นสายหนังสไตล์วินเทจ (น่าเสียดายที่หูสายกว้าง 19มม) ซึ่งผมว่ามันดีกว่าสายเดิมมากๆ เจ้า Seiko 5 เรือนนี้น่าจะยังอยู่กับผมไปอีกนาน

นาฬิกา Jaeger-LeCoultre Reverso Classic Medium Thin Reference JLQ2548440

  • ประเภท: นาฬิกาเดส สำหรับใส่ประจำวัน
  • ปีที่เข้ามาอยู่ในคอลเล็คชั่น: พ.ศ.2565 / ค.ศ.2022 
  • รายละเอียดนาฬิกา:
    • วัสดุตัวเรือนและคริสตัล: สแตนเลสสตีล หร้อมกระจกแซฟไฟร์คริสตัล
    • หน้าปัด: Silvered grey, Vertical satin-brushed and guilloche, Black transferred numerals
    • ขนาดตัวเรือน: สูง 40.1มม กว้าง 24.4มม
    • กลไกนาฬิกากลไกไขลาน Caliber 822A/2, Components; 108 ชิ้น ความถี่ 21600 Jewel 19 ชิ้น สำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง
    • ฟังก์ชั่น: มีเฉพาะเข็มชั่วโมง และเข็มนาที
    • การกันน้ำ: 30ม
    • เกร็ดความรู้: นาฬิกา Reverso เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1931 (พ.ศ.2474) ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักกีฬาโปโลใส่เวลาแข่งขัน เพราะนาฬิกาสามารถพลิกเอาด้านกระจกเข้าไปด้านใน เพื่อป้องกันกระจกนาฬิกาแตกเสียหาย นับเป็นนาฬิกา Sport Watch ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากศิลปะยุค Art Deco Style ที่มีหรูหรา สง่างาม เป็นเอกลักษณ์ตลอดกาล
  • เรื่องราว:

นาฬิกาเรือนนี้นับเป็นเรือนล่าสุดที่เข้ามาอยู่ในคอลเล็คชั่นของผม เมื่อประมาณเดือนตุลาคม ปี พ.ศ.2565 นี่เอง นับเป็นนาฬิกาเรือนพิเศษสำหรับผม ตามที่ผมได้เขียนโพสแยกต่างหากเกี่ยวกับเจ้า Reverso เรือนนี้โดยเฉพาะ เพื่อนๆ สามารถอ่านได้ที่ My Dream (Comes True) Watch

ผมได้ทำการสั่งนาฬิกา Reverso กับทาง Jaeger-Lecoultre บูทีค ที่ สยามพารากอน เมื่อเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2565 ถึงแม้ว่าผมจะต้องรอเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน (1 เดือนสำหรับการสั่งผลิตจากสวิสเซอร์แลนด์ และอีก 1 เดือนสำหรับงานแกะสลักด้านหลังตัวเรือน) แต่มันเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ที่ผมได้รับจากพนักงานขายทุกท่าน

ในตอนที่สั่งนาฬิกานั้น ผมได้เลือกสายนาฬิกาเป็นหนังจรเข้สีน้ำตาลเข้ม แต่เนื่องจากผมตั้งใจที่จะใส่เจ้า Reverso นี้ไปทำงานเป็นประจำ ผมจึงตัดสินใจสั่งสายนาฬิกาเพิ่มอีก 1 เส้น เป็นหนังนกกระจอกเทศสีน้ำตาลอ่อน เพราะจะสามารถแมทช์เข้ากับการแต่งตัวแบบ Classic Menswear ของผมได้มากกว่า (หนังจรเข้ มีความเงา แถมยังสีเข้ม เหมาะกับงานทางการ งานกลางคืนมากกว่า) ผมสามารถเปลี่ยนสายสลับไปมาได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ เพราะนาฬิกาและสายมาพร้อมกับระบบ Quick Release

การเดินทาง และเรื่องราวระหว่างผมกับเจ้า Reverso เรือนนี้เพิ่งจะเริ่มต้น และผมตั้งใจว่านาฬิกาเรือนนี้จะอยู่กับผมตลอดไปจนกว่า จะถึงเวลาที่ผมจะส่งต่อให้กับลูกสาวของผม

นาฬิกาที่ผมตั้งใจให้มาอยู่ในคอลเล็คชั่นในอนาคต

เพื่อความกระชับของโพสนี้ ผมขอพูดถึงนาฬิกาที่ผมวางแผนไว้ว่าจะซื้อเข้ามาอยู่ในคอลเล็คชั่นในอนาคต ในโพสถัดไป นะครับ

บทสรุป

ไม่ทราบว่าเพื่อนๆ คิดยังไงเกี่ยวกับนาฬิกาในคอลเล็คชั่นของผม ถ้าหากเพื่อนๆ มีความเห็นเพิ่มเติม หรืออยากจะแนะนำ ติชม จะเห็นด้วย หรือเห็นต่าง ผมยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นนะครับ สามารถเขียนลงมาในช่อง comment ข้างล่างได้เลยครับ และฝากสนับสนุนผลงานของผมโดยการ กดติดตาม IG @my.six.point.five.inch.wrist และ @mickyjicky ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

แล้วเจอกันใหม่ ในโพสถัดไปครับ !!

State of The Collection – My watch collection journey in 2022

The end of year 2022 is just around the corner, I would like to update all of the watches in my collection and what I plan to purchase in the future including the reasons behind it.

For me, I quite enjoy checking out others watch collection because I found that the stories behind each acquisition are very amusing and yet very knowledgeable and inspiring.

I hope that my post would be the same to any watch enthusiasts out there as well.

How I categorized my watch collection?

Start with my ‘Current Collection’ – all the watches that I currently own with the year that I acquired them and some hard facts with my story for each of them.

There is also the ‘Wish List’ – watches that I plan to purchase in the future and the reasons behind them. Normally, I try to set criteria as ‘My Rules’ to help me to frame my thought on how should I build up my watch collection.

What are ‘My Rules’?

Rule#1 I cannot own more than 1 watch of each brand.

Rule#2 I cannot own more than 1 watch of each category.

Rule#3 Build up watch collection with watch type/category whichever that I prefer BUT can ONLY purchase for celebration of achievement(s) or important milestone(s) in life.

Rule#4 Must NOT put myself into financial problem.

My Current Collection

Rolex Submariner Reference 1680

My vintage Rolex Submariner Ref.1680 with other watches in my collection
  • Category: Vintage Watch / Family Heirloom
  • Year of Acquisition: 1994
  • Details: (Source: https://www.bobswatches.com/rolex-blog/watch-review/appeal-reference-submariner-1680.html)
    • Production Years: 1967-1980 (approx)
    • Case & Crystal: Stainless Steel Black Dial / Acrylic with Cyclops and Oyster Bracelet
    • Bezel: Bidirectional Black Aluminum Insert with 60-minute timing scale
    • Dimensions: 40mm Diameter / 20mm Lug width
    • Movement: Caliber 1575 (Cal.1570 base) Automatic winding
    • Water Resistance: 200 meters / 660 feet
    • Fun facts: Ref.1680 is the first reference that Rolex introduce a date function in Submariner product line. I swapped the bracelet to suede leather strap to fit in the ‘weekend watch’ & ‘vintage vibe’
  • My story:

I received this watch as a present from my uncle when I got into School of Architecture 18 years ago (when the watch price wasn’t as crazy as today). When I saw my uncle wore this Rolex Sub for the first first time, I absolutely loved it. I asked him so many questions about this watch until he told me that “If you can get in to Architectural School, I will buy you one”.

I’ve worn this watch almost everyday thru my bachelor degree and my master degree in the USA. It went everywhere around the world with me during the beginning of my career (you can see what this watch has been thru from the photo) . I still wear it these days but only on the weekend and it’s still running great!! It really hard to argue that Rolex has create tough watches but yet so beautiful and really iconic.

Swatch Quartz Chronograph

The Swatch Quartz Chronograph that’s not the ‘MoonSwatch’
  • Category: Fun Watch / Family Heirloom
  • Year of Acquisition: Unknown
  • Details:
    • Case & Bracelet: Stainless Steel
    • Dimensions: 43mm case width / 12.67mm thickness / 49mm lug-to-lug
    • Movement: Quartz
    • Functions: Chronometer with Date window at 4.30
    • Water Resistance: 30 meters
    • Fun fact: Do you know that you can go to Swatch shop to replace battery free of charge as long as you own the (s)watch?
  • My story:

When I first saw this watch it was on my father’s wrist long time ago. It was a cool watch. I cannot recall that I asked my dad to have this watch or not? But it turned out that I found it in my drawer when I was clearing out my room at my parents’ house at the time that they sold that house and to move to their new house.

When I saw this watch again in my drawer it reminded me of the ‘Speedy’ ; Omega Speedmaster (at that time the MoonSwatch wasn’t exist). So I decided to keep it because I know that I can do something fun with this watch. Just early this year, I went to Swatch shop to replace the battery. Luckily, the watch still running but the chronograph function isn’t. Also I replaced a broken bracelet with Swatch’s brown leather strap (too bad – we cannot use after market strap with Swatch).

I wear this watch occasionally. For me, this watch is not about wearing it BUT every time that I see it, I see my childhood & my relationship with me and my dad.

Apple Watch Series 7 45mm Stainless Steel in Silver

Apple Watch Series 7 in Stainless Steel with Milanese Bracelet (Loop)
  • Category: Smart Watch
  • Year of Acquisition: Early 2022
  • Details:
    • Case & Bracelet: Stainless Steel & Milanese Style Bracelet
    • Dimensions: H 45mm W38mm D10.7mm
    • Chip: S7 with 64-bit dual core processor / W3 Apple wireless chip / U1 chip (Ultra Wideband)
    • Functions: (Key Features)
      • GPS + Cellular with Wi-Fi & Bluetooth connectivity
      • Always-on display
      • Blood Oxygen Sensor
      • Electrical Heart Sensor
      • Fall Detection
      • and the list goes on…
    • Water Resistance: 50 meters (Water Sport Proof)
    • Fun fact: Do you know that the 1st Apple Watch model called “Series 0 (zero)”?
  • My Story:

My family and my friends know that I’m an Apple Fanboy. My first Apple product was iMac G3 (the one that came out with Blue, Red, Green, Yellow, and Purple color options). I owned Apple Watch since Series 0 (zero) and I keep updating my Apple Watch along the way.

For this update, I chose the ‘Stainless Steel’ model, even though it’s more expensive than the Aluminum model with almost the same functions. The reason was purely my Watch Enthusiastic. I want to wear a Smart Watch that has a finishing quality closes to Analog Watch as much as possible.

Normally, I wear Apple Watch when I do some exercises i.e. running, tennis, swimming, and tracking my sleep. I admit that I cannot stay away from Tech products. I wanna try new features (especially Apple’s product). That’s why Apple Watch is in my collection and it definitely will be in the future.

Seiko 5 Reference SNXS73K1 (A Budget Friendly ‘Date Just’)

Some say this is a budget friendly ‘Date Just’ and some say ‘Oyster Perpetual’
  • Category: Weekend Sport Watch
  • Year of Acquisition: 2021
  • Details:
    • Case & Crystal: Stainless Steel & Hardlex Crystal
    • Dial: Silver Sun Burst with applied Markers with Lume
    • Dimensions: 37mm Diameter / 12mm Thickness / 19mm Lug width
    • Movement: Seiko Caliber 7S26 Automatic winding
    • Functions: Time with Running Seconds; Day-Date Display
    • Water Resistance: 30 meters
    • Fun fact: The “5” is a reference to the attributes that any Seiko 5 watch would offer;
      • Automatic Winding
      • Day & Date Display
      • Water Resistance
      • Recessed crown at 4 o’clock
      • Durable Case
  • My story:

I remember clearly that I knew this watch from ‘Pond Review’ (Thai with English Subtitle) and ‘Wimol Tapae’ (Thai Language) Channel. They were both provided a great review on this watch. There are also many ‘Watch YouTubers’ around the world give praise to this watch as ‘Entry Level Mechanical Watch’, ‘Best Watch for $100’, etc.

So last year, I decided to buy one to give it a try. I can tell all of you that this watch is worth every penny. I got many many compliments when I wore this watch. People always have an impression that this watch cost more than $100.

It’s very comfortable to wear and the legibility is very good (plenty of Lume as well). I don’t mind much about its accuracy (-20/+40 second per day) because I wear this watch occasionally during a weekend or a short travel trip.

Another downside of this watch beside the accuracy is its bracelet. The first thing I did when I got this watch was changing to vintage style leather strap (19mm lug width) which turned out very nice (for me). This watch definitely stays in my collection.

Jaeger-LeCoultre Reverso Classic Medium Thin Reference JLQ2548440

My Reverso with Ostrich Leather Strap
  • Category: Everyday Dress Watch
  • Year of Acquisition: 2022
  • Details:
    • Case & Crystal: Stainless Steel with Sapphire Crystal
    • Dial: Sivered grey, Vertical satin-brushed and guilloche, Black transferred numerals
    • Hands: Baton with heated blue steel
    • Dimensions: (L x W): 40.1 x 24.4mm
    • Movement: Manual winding Caliber 822A/2, Components; 108, Vibrations per hour: 21600, Jewels: 19, Power Reserve: 42 hours
    • Function: Hour – Minute
    • Water Resistance: 30 meters
    • Fun fact: First released in 1930 for Polo sport players, Reverso originally was released as ‘Sport Watch’ with the ‘Art Deco Style’ influences, it is the most elegant sport watch of all time.
  • My story:

This is my latest acquisition. I just got this watch in October 2022. It is a very special watch to me as I made My Dream (Comes True) Watch post separately.

I ordered this Reverso at Jaeger-Lecoultre Boutique Siam Paragon (Bangkok, Thailand) in August 2022. Even though I have to wait for 2 months; one month for order a new watch from Switzerland and another month for personal engraving on the case back, it was a great experience with all the services from SAs in the boutique.

I originally placed an order of my Reverso with a Dark Brown Alligator Strap (will add photo more in future) BUT since I planned to wear this watch daily (perfect with my Classic Menswear style), I also order another strap in Light Brown Ostrich (as shown in photos) which would fit more with my daily wear. And I keep the alligator strap for some special Night Events (thanks to quick release system that comes with the watch & strap).

My journey with my Reverso has just begun and this watch will stay in my collection forever until I pass it on to my daughter.

My ‘Wish List’ Watches

In order to keep this post not too long to read. Let’s continue my ‘Wish List’ watches in the next post.

My Final Thought

As usual, what do you guys think? Please feel free to drop your comments. Any opinion and suggestion are very welcome here.

Please help to support my works by visiting & following my IG account @my.six.point.five.inch.wrist

Thank you & See you on the next one!!

My Dream (Comes True) Watch is ‘The Reverso’

Watches have a special ability to have so many meanings. It depends on how each person looks and values his/her watch.

For some people, watch is a tool to tell or to measure the time.

For some people, watch is an accessory that compliment their outfits.

For some people, watch is an object that represents their social status.

For some people, watch is an asset of investment.

For some people, watch can represent their beloved one. 

For some people, watch is a statue of their success.

and many more…

There is no right or wrong for all of the above. That’s the magic of watches and that is why so many men and women are obsessed with these little well engineered and decorated mechanism . That’s right! I am one of them.

Here, I would like to start ‘My Journey’ blog about watches by talking about ‘My Dream (Comes True) Watch’.

Reverso Classic Medium Thin Ref.JLQ2548440 Manual winding, Stainless Steel in Light Brown Ostrich Strap

Yes, it is ‘The Reverso’

The Reverso has been ‘My Dream Watch’ for more than a decade. I’ve admired its history, functionality, and most of all the beauty of it.

When the time is right and when I’m ready, today my dream has come true. I’m lucky enough to own my dream watch. When I look at this watch, it represents my hard work, my patience, and my accomplishment.

I’m very certain that ‘My Reverso’ will be with me almost everyday and that is where the connection and story between ‘Me and My Reverso’ will grow.

I called this watch, “My Reverso” because I decided to make it ‘Personal’ by engraving the back of its case with the most meaningful words that a father can possibly say to his daughter.

Case Size 40.1 x 24.4mm Calibre Jaeger-LeCoultre 822A 42 Hours Power Reserve Water Resistance 3 bar

Until the time is right I will look forward to pass on my beloved timepiece to my daughter (and she is more than a world to me).

And that will be the time for My Reverso to finally fulfill my dream.

My Final Thought

Do you have the same experience as my story? Or you can leave your comments and let me know what you guys think. Any opinion and suggestion are very welcome.

Please help to support my works by visiting & following my IG account @my.six.point.five.inch.wrist

Thank you & See you on the next one!!

ห้า (5) ช่อง YouTube สำหรับหาความรู้ และแรงบันดาลใจ สำหรับการแต่งกายสไตล์ Classic Menswear

ก่อนอื่นผมต้องขอแจ้งว่า สำหรับโพสนี้ ผมได้ทำการเลือกเฉพาะช่องยูทูปที่เป็นของคนไทย เนื่องจากผมตั้งใจให้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ตรงจากตัวผมเองในการค้นหาข้อมูล เมื่อผมเริ่มต้นสนใจวงการ Classic Menswear (เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว พ.ศ.2562)

ถึงแม้ว่า ณ ช่วงเวลานั้นจะไม่มีแหล่งข้อมูลมากมายนัก ช่องยูทูปของคนไทยก็ยังไม่หลากหลาย แต่ผมก็ยังรู้สึกโชคดีมากๆ เพราะว่า ทุกๆ ช่องยูทูป และช่องทาง social media ที่เกี่ยวกับ classic menswear ล้วนแต่เป็นคนเก่ง ที่มีทั้งความหลงไหล ความตั้งใจ และความจริงใจที่จะถ่ายทอดความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของตน เพื่อให้วงการ classic menswear ของคนไทย มีความเข้าใจมากขึ้น และขยายวงกว้างยิ่งขึ้น

ผมขอเรียงลำดับแต่ละช่องตามลำดับเวลาที่ผมได้ค้นเจอทางอินเทอร์เน็ต (ช่องไหนที่ผมเจอก่อนผมจะเอาไว้ลำดับแรก) และในแต่ละช่อง ผมขอขยายความโดยใช้หัวข้อดังต่อไปนี้

  • เนื้อหาหลัก
  • Playlist ที่น่าสนใจ
  • ความเห็น และข้อแนะนำว่าเหมาะกับใคร

สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าบทความนี้ และสิ่งที่ผมนำเสนอจะช่วยให้ เพื่อนๆ ที่เริ่มแต่งตัวในสไตล์ classic menswear และกำลังอยากหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือกำลังอยากหาไอเดียในการแต่งตัวใหม่ๆ หรือแม้แต่เพื่อนๆ ที่กำลังเริ่มที่จะสนใจ ได้เข้าถึงและเข้าใจง่ายขึ้นนะครับ

มาเริ่มกันเลย!!

1)ช่อง TaninS: https://youtube.com/@TaninS

รูปจาก https://www.facebook.com/taninsblog

สำหรับคุณธนิน หรือที่ทุกคนเรียกว่า “คุณนิน” คงไม่ต้องแนะนำตัวกันเยอะ เพราะแทบไม่มีใครในวงการ Classic Menswear ไม่รู้จักเค้า และคงไม่ผิดที่จะบอกว่า คุณนิน เป็นคนแรกๆ ที่เริ่มให้พวกเรารู้จักคำว่า “Sartorial Style” และคำว่า “Classic Menswear” ในสื่อโซเชียลของคนไทย และแน่นอนช่อง TaninS เป็นช่องแรกที่ผมเจอ เมื่อผมพยายาม search หาข้อมูลใน YouTube

เนื้อหาหลัก

เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐาน และเทคนิคการแต่งตัวที่ขาดไม่ได้สำหรับการแต่งตัวสไตล์นี้ เราสามารถเรียนรู้ผ่านการรีวิวไอเท็มต่างๆ และเสริมด้วยการที่คุณนินลองใส่ไอเท็มเหล่านั้น และทำการ mix-n-match เป็นตัวอย่างให้เราเข้าใจมากขึ้น เพื่อให้เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับตัวเองได้ อีกทั้งมีการแนะนำร้าน ready-to-wear และช่างตัดสูท (Bespoke, MTM, MTO) รวมถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัวด้วย

Playlist ที่น่าสนใจ

ลองเข้าไปดู ‘VLOGs’, ‘How To’, ‘Review’, ‘Menswear Shopping’ ครับ

ความเห็น และข้อแนะนำ

ผมคิดว่าด้วยสไตล์เฉพาะตัวของคุณนิน บวกกับการอธิบายที่เข้าใจง่าย และงาน production ที่สวยงามและดึงดูดให้เราติดตามเสมอ ช่องนี้จำเป็นสำหรับทุกๆ คนครับ

2)ช่อง MartinPhu: https://youtube.com/@MartinPhu

รูปจาก https://www.facebook.com/Martinphu

สำหรับสุภาพบุรุษท่านนี้ ผมเชื่อว่าคุณจ็อบเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการแฟชั่น และสื่อโซเชียลของไทยเรามานาน จนเป็นที่รู้จักอย่างดีในวงการ อีกทั้งคุณจ๊อบยังเป็นผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์สอนการพัฒนาบุคลิกภาพ ให้กับสถาบันการศึกษา และบริษัทต่างๆ อีกจำนวนมาก และ(ถ้าผมจำไม่ผิด) คุณจ็อบยังเป็นเทรนเนอร์สอนการเดินแบบ ให้กับน้องๆ นายแบบ นางแบบอีกด้วย ผมค้นเจอช่อง MartinPhu ครั้งแรกด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับการรีวิว สินค้า luxury แฟชั่น เช่น กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ นาฬิกา ฯลฯ จนเมื่อไม่นานมานี้ คุณจ็อบได้สื่อสารกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ว่าตนเองจะเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว มาเป็น classic menswear นี่แหละครับ ผู้นำแทรนด์ตัวจริง

เนื้อหาหลัก

ทุกคนสามารถติดตามข้อมูลอัพเดทล่าสุด ไม่ว่าเป็นไอเท็ม เสื้อผ้า รองเท้า หรือช่างตัดสูทคนไหน ที่น่าสนใจ ได้จากช่อง MartinPhu ด้วยการถ่ายทำ และนำเสนอ แบบ “เรียลๆ” (ที่คุณจ็อบชอบพูด) เพื่อนๆ จะรู้สึกเหมือนได้ฟังเพื่อนคอเดียวกัน กำลังเล่าเรื่องราวดีๆ ให้ฟัง คุณจ็อบยังใช้ความเชี่ยวชาญ และสไตล์ส่วนตัว เพื่อสอดแทรกข้อแนะนำดีๆ ระหว่างการรีวิวอีกด้วย ที่สำคัญสิ่งที่คุณจ็อบเลือกมานำเสนอให้พวกเรานั้นมีความหลากหลาย และคลอบคลุมหลายช่วงราคา ไม่จำเป็นต้องเป็นของที่มีราคาสูงเสมอไป

Playlist ที่น่าสนใจ

ลองเข้าไปดู ‘Shoes’, ‘Accessory’, ‘Grooming’ หรือแค่คลิ๊กเข้าไปดู Recently VDO สำหรับเนื้อหาล่าสุด

ความเห็น และข้อแนะนำ

สำหรับผม ถ้าผมอยากรู้ว่ามีสินค้าอะไรใหม่ หรือร้านไหนกำลังอินเทรนด์ ผมจะเข้าไปดูในช่อง MatinPhu ครับ และถ้าใครกำลังมองหาคนที่สามารถแนะนำการแต่งตัวที่คลอบคลุมจบในที่เดียว รวมไปถึงคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการพัฒนาบุคคลิกภาพ และสไตล์การแต่งตัว ทุกอย่างอยู่ในช่องนี้ครับ

3)ช่อง The Decorum Menswear: https://youtube.com/@thedecorummenswear242

รูปจาก https://www.thedecorumbkk.com

สำหรับผม The Decorum เป็นเหมือนกับที่ทางร้านระบุไว้ใน สโลแกนว่า “Gentlemen’s Quarters” จริงๆครับ เพราะที่นี่คือ สถานที่แฮงค์เอาท์ของเหล่าสุภาพบุรุษที่รักการแต่งตัวสไตล์ Classic Menswear ของเมืองไทย ไม่ว่าใครกำลังคิดจะหาซื้อ เสื้อผ้า รองเท้า หรือจะตัดสูทตัวใหม่ The Decorum จะต้องอยู่ในลำดับต้นๆ ของทุกคน ผู้ร่วมก่อตั้งทั้ง 2 คนคือ คุณกาย และคุณบอล ยังตั้งใจอยากจะแบ่งปัน ความรู้ และข้อมูลต่างๆ ให้กับวงการนี้ จึงเกิดเป็นช่อง The Decorum Menswear ขึ้นมา

เนื้อหาหลัก

ทุกสิ่งที่ทุกคนควรจะรู้เกี่ยวกับการเริ่มต้นแต่งตัวสไตล์ Classic Menswear ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำตั้งแต่ประเภทของ สูท รองเท้า เนคไท แจ็กเก็ต ไปจนถึง การนำไปใส่ในโอกาสต่างๆ อย่างเหมาะสม และยังมีบทสัมภาษณ์ กูรูในแขนงต่างๆ celebrities เมืองไทย รวมทั้ง ช่างตัดสูทระดับโลก ที่มาจัด Trunk Show เป็นประจำที่ร้าน ที่รับรองว่าทุกๆ คนจะต้องได้แรงบันดาลใจ และไอเดียในการแต่งตัวใหม่ๆ อย่างแน่นอน

Playlist ที่น่าสนใจ

ลองเข้าไปดูใน ‘The Decorum’s Favorite Items’ หรือเข้าไปใน Recently VDO

ความเห็น และข้อแนะนำ

อย่างที่ผมเกลิ่นไว้ตอนต้นว่า The Decorum เป็นมากกว่าร้านเสื้อผ้า แต่เป็นแหล่งชุมนุมของคนที่สนใจสไตล์การแต่งตัว Classic Menswear อย่างแท้จริง ด้วยบรรยากาศ และการตกแต่งของร้าน เพื่อนๆ ไม่ต้องรู้สึกเกร็ง ที่จะเข้าไปเยี่ยมชมในร้าน (ผมก็เคยรู้สึกเช่นนั้นมาก่อน) เพราะพนักงานทุกคน รวมถึงคุณกาย และคุณบอล ยินดีและพร้อมที่จะให้คำแนะนำ อย่างเป็นกันเอง เช่นเดียวกับที่ช่อง The Decorum Menswear นำเสนอให้กับทุกคน

4)ช่อง Americano Taste: https://youtube.com/@AmericanoTaste

รูปจาก https://www.facebook.com/americanotaste

เมื่อผมได้พบกับช่อง Americano Taste และได้ชมคลิปต่างๆ ในช่อง ผมทั้งทึ่งและทั้งอยากรู้มาก ว่าคุณอาร์ม กรกฎ จะต้องใช้ทั้งเวลา และความพยายามมากขนาดไหน ในการค้นหา และเตรียมข้อมูลต่างๆ เพราะในแต่ละ Episode นั้น ผมกล้าบอกได้เลยว่า มันคือการสรุป รวบรวมข้อมูลที่ลึกซึ้ง โดยที่พวกเราไม่ต้องไปอ่านหนังสือหลายๆ เล่ม หรือค้นหาข้อมูลตามแหล่งต่างๆ แต่คุณอาร์ม ได้เรียบเรียง วิเคราะห์ และสรุปรวบยอดความคิด แล้วมาวางพร้อมเสริฟตรงหน้าให้พวกเราทุกคน (ผมไม่ทราบว่าจะหาแหล่งข้อมูลเชิงลึกแบบนี้ได้ที่ไหนอีกแล้วครับ) และคุณอาร์มยังมีสไตล์ส่วนตัว ที่ผมชื่นชม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่มีใครเหมือนจริงๆ

เนื้อหาหลัก

ใน Episode แรกๆ ของช่อง Americano Taste จะแนะนำหนังสือหลายเล่มที่ทุกคนควรอ่าน เพื่อปูพื้นฐานในการสร้างสไตล์ส่วนตัว ผมชอบในความเป็น Academic based แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อ เพราะเนื้อหา ที่คุณอาร์มนำเสนอ และวิธีการอธิบาย การเล่าเรื่องล้วนน่าสนใจ น่าติดตามทั้งสิ้น เนื้อหาที่คุณอาร์มพยายามนำเสนอ มันไปเหนือกว่าแค่การพยายามแต่งตัว เพื่อภาพลักษณ์ภายนอก แต่มันไปแตะถึงระดับการจัดระเบียบความคิด เพื่อให้เป็นพื้นฐานที่มั่นคง และชัดเจนว่าเราใช้ความคิดอะไร เพื่อตัดสินใจเลือกไอเท็มต่างๆ ในทุกๆ วันของเรา และยังมีหลายๆ Episode ที่เล่าถึง ประวัติศาสตร์ของแฟชั่น ศิลปะ รวมถึงวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และบุคคลสำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ทั่วโลก ทั้งหมดนี้คุณไม่สามารถไปหาได้จากช่องทางอื่นแล้วครับ

Playlist ที่น่าสนใจ

อยากให้เข้าไปลอง ‘Americano Podcast’ ก่อน แล้วตามด้วย ’Style Talk’, ‘Fabric 101’, ‘Style Opinion’

ความเห็น และข้อแนะนำ

ในช่องยูทูปอื่นๆ ส่วนใหญ่จะนำเสนอให้เราทราบถึงประวัติของแบรนด์ และที่มาของเสื้อผ้า สูท รองเท้าประเภทต่างๆ แบบกระชับ แต่สำหรับช่อง Americano Taste คุณอาร์มจะนำเสนอแบบเจาะลึก พร้อมทั้งใช้ประสบการณ์ และความเชียวชาญที่อยู่ในวงการงานเขียน แฟชั่นแม็กกาซีน และการทำงานที่ร้าน The Somchai มาอธิบาย และสรุปในมุมมองที่น่าสนใจมากๆ ถ้าใครที่กำลังมองหาข้อมูลเชิงลึก และกำลังค้นหา สไตล์ของตนเอง ช่อง Americano Taste คือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

5)ช่อง Signore Closet: https://youtube.com/@SignoreCloset

รูปจาก https://www.facebook.com/signorecloset

สำหรับน้องเล็กในวงการ Classic Menswear ผมขอมอบรางวัล “ความเกรียน” และ “ความขบถเล็กๆ” ให้กับช่อง Signore Closet ทั้งคุณเป้ และคุณแม็ค (ผู้ร่วมก่อตั้ง) เป็นบุคคลที่มีความสามารถล้นเหลือ และเต็มไปด้วยความหลงใหลในสไตล์ Classic Menswear และจากการที่ผมติดตามทั้งสองท่านในช่องนี้ ทำให้ผมตัดสินใจตัดสูท Bespoke ตัวแรกที่ร้าน The Primary Haus (ไว้ผมจะเล่าประสบการณ์เรื่องนี้แน่ๆ ในโพส ต่อๆ ไป) ด้วยการนำเสนอในแบบที่เป็นกันเอง แฝงด้วยอารมณ์ขัน แต่ก็ยังเต็มไปด้วยข้อมูล ความรู้ ที่น่าสนใจ สามารถทำให้ทุกคนรู้สึกว่า การแต่งตัวสไตล์ Classic Menswear นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด

เนื้อหาหลัก

เริ่มตั้งแต่ความรู้พื้นฐาน ในทุกๆ ไอเท็ม ที่ทุกคนควรได้รู้จัก และเข้าใจ ในสไตล์ Classic Menswear ไปจนถึงการนำเสนอลุคที่เป็นแนววินเทจแท้ๆ (ถ้าเพื่อนๆ สนใจอยากไปให้สุด) โดยคุณเป้ และคุณแม็ค ยังมีจุดเด่นในการสอนให้รู้จักใช้ คำเรียกที่ถูกต้องขององค์ประกอบต่างๆ เช่นพวก รองเท้า เสื้อ Shirt และ Detail ต่างๆ ของชุดสูท นอกจากนี้ ทั้งสองคนยังพาให้ทุกคนไปรู้จักร้านต่างๆ ในการเลือกซื้อสินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ไปจนถึงร้านเสื้อผ้า มือสอง (ทั้งทาง online และทางหน้าร้าน) ที่เลือกมาแล้วอย่างดี จากประสบการณ์ตรงของทั้งสองหนุ่ม และที่พลาดไม่ได้เลยคือ การแนะนำให้รู้จักช่างตัดสูท ทั้งระดับโลกไปจนถึงช่างไทยที่มีฝีมือไม่แพ้ ช่างต่างชาติเลยครับ

Playlist ที่น่าสนใจ

ที่ไม่ควรพลาดเลยคือ ’Suit & Jacket’, ‘Classic Wear How-to’, ‘Fitting Room’, ‘Classic Menswear Second Hand stores Series’

ความเห็น และข้อแนะนำ

ด้วยความกวน และอารมณ์ขัน ทุกคนจะสนุกไปกับการเรียนรู้ และมีความเข้าใจ ในสไตล์ Classic Menswear มากขึ้นอย่างแน่นอน จากช่อง Signore Closet และที่แน่ๆ คือทุกคนจะได้แรงบันดาลใจ และไอเดียในการแต่งตัวใหม่ๆ จากทั้งคุณเป้ และคุณแม็ค อย่างมากมายแน่นอน

บทสรุป

ทุกวันนี้ เรามีช่อง YouTube และ Website เกี่ยวกับ Classic Menswear อีกมากมายที่ผมไม่สามารถกล่าวถึงได้หมดในโพสนี้ และช่องทางเหล่านั้นทั้งมีประโยชน์ และน่าสนใจไม่แพ้กัน ผมอยากแนะนำให้ทุกคนเข้าไปติดตามกันนะครับ

สุดท้ายนี้ หากทุกคนต้องการแนะนำ ติชม หรือออกความคิดเห็น จะเห็นด้วย หรือเห็นต่าง ผมยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นนะครับ สามารถเขียนลงมาในช่อง comment ข้างล่างได้เลยครับ และฝากสนับสนุนผลงานของผมโดยการ กดติดตาม IG @mickyjicky ขอบคุณครับ

แล้วเจอกันใหม่ ในโพสถัดไปครับ!!

Five (5) YouTube Channels for Classic Menswear knowledge & to get inspired

First of all, I have selected ONLY Thai YouTube Channels for this Blog post because I intend to curate this based on my own experience when I started getting into “The World of Classic Menswear” (about 3 years ago started in 2019).

I feel really lucky. Even though, back then, there were not so many Thai YouTubers sharing this knowledge BUT I can surely say that they are all talented and genuinely willing to share their expertise and experiences to make Thai classic menswear community growing bigger and healthier.

I also put them into a chronological manner (starts with the one that I discovered first and so on…) and I indicate each of them with the following topics:

  • Focus on
  • Playlists in hi-light
  • My opinion & recommendations

Lastly, I hope this would help filling the gap for the newbies who just started to look at the classic menswear and trying to find more information and trying to get some inspirations or just anyone who interested in the same topic.

Let’s get started!!

1)TaninS: https://youtube.com/@TaninS

Photo credit to https://www.facebook.com/taninsblog

Khun Tanin AKA Khun Nin doesn’t need an introduction in the classic menswear community. I think it’s not wrong to say that he is the very very first who introduced the words “Sartorial” and “Classic Menswear” into Thai Social Media. His channel is the first one that came up when I started searching on YouTube.

Focus on:

You can learn the basic understandings & techniques of what essential in classic menswear thru his product reviews together with his try-on or mix-n-match to see the different looks for your reference. Also you can learn where he purchased, his favorite tailors and his lifestyle as well.

Playlists in hi-light:

Try ‘VLOGs’, ‘How To’, ‘Review’, ‘Menswear Shopping’

My opinion & recommendation:

I think with his chill-but-yet-stylish character and together with an easy-to-understand way that he presented and beautiful production, I couldn’t recommend this channel enough for everyone.

2)MartinPhu: https://youtube.com/@MartinPhu

Photo Credit to https://www.facebook.com/Martinphu

Another gentleman who I believe that has involved in Thai fashion and social media for many many years. Khun Job is also an instructor for Personality Improvement courses at both educational institutions and private companies. If I’m not wrong, he’s also trainer for Fashion Model Catwalk. I found his channel firstly on the luxury brand name products such as bags, shoes, jewelries, watches, etc. Recently, he devoted himself by changing his whole wardrobe to the Classic Menswear style. He’s a truly “Trend Leader”.

Focus on:

You can learn the latest updates of Classic Menswear products, tailors, etc. from this channel. With his ‘Long Take’ productions, you can feel like listening to your good friend telling you good stories. Khun Job is using his styling expertise in his review as a plus and his selections have a wide price range and many product variations.

Playlists in hi-light:

Try ‘Shoes’, ‘Accessory’, ‘Grooming’, or just check his Recently VDOs

My opinion & recommendation:

If I wanna know what new or trendy in town, I always go check his channel. Also if you want to find a total solution to complete your new look or want to improve your style and personality, you will feel like at home here.

3)The Decorum Menswear: https://youtube.com/@thedecorummenswear2429

Photo Credit to https://www.thedecorumbkk.com/

This is exactly like what they wrote in the tag line of the store, a “Gentlemen’s Quarters” where all the well dressed & stylish gentlemen love to hangout. When we think about where to find Classic Menswear products, The Decorum is always on top of the list. Both co-founders; Khun Guy & Khun Ball are also generous enough to create a YouTube channel to share knowledge to the community.

Focus on:

All you need to now about how-to dress in Classic Menswear Style i.e. Suit, Shoes , Neckties, Jackets, Accessories, etc., you can find it here from the basic to the advanced tips & ticks in style recommendation. Also interview sessions with gurus, celebrities, and world class tailors that you will definitely get inspired.

Playlists in hi-light:

Check ‘The Decorum’s Favorite Items’ or just go for the Recently VDOs

My opinion & recommendation:

Like I mentioned above, The Decorum is more than a store. It is a place where all the classic menswear enthusiasts love to mingle. And please don’t feel intimidated by the look and atmosphere of the store ( I used to feel like that too), their staffs have good knowledge on the products and are very polite & friendly and always there to help you. The Decorum YouTube channel is also the same.

4)Americano Taste: https://youtube.com/@AmericanoTaste

Photo Credit to https://www.facebook.com/americanotaste

When I first discovered this channel, I felt really amazed on how much time & efforts that Khun Arm Korakot spent on his research of each episode. In each of every topic that he selected to share, I can surely say that it is a real ‘in-depth’ information which you don’t need to read all the various books by yourself BUT Khun Arm summarized and analyzed them and served in front of you (where else can you find something like this?). I also admired his personal style which is hard to find in others.

Focus on:

Start with the recommended books to create Personal Style, you can feel how academic based on this channel BUT all of his episodes are very interesting. They go beyond the look of what we dress but they touch into the ‘Mindset’ level; the way of thinking behind the decision that we select what to wear everyday. There are many episode that relate to the fashion history, culture, and iconic people which you cannot find in other channels.

Playlists in hi-light:

Try ‘Americano Podcast’, ‘Style Talk’, ‘Fabric 101’, ‘Style Opinion’.

My opinion & recommendation:

You can always find a brief history of the brands or products in many YouTube channels BUT in ‘Americano Taste’, Khun Arm always goes deeper and takes extra miles. For anyone who is interested in the real meaning of ‘Classic Menswear’ and seeking for ‘Personal Style’, this is THE MUST channel that you should not miss.

5)Signore Closet: https://youtube.com/@SignoreCloset

Photo Credit to https://www.facebook.com/signorecloset

Last but definitely not least, I give an ‘Avant-garde’ award to this channel. Khun Pae & Khun Mac; the co-founder of this channel, are very talented young gentlemen full with passion on the Classic Menswear Style. Because of this Channel, I decided to commissioned my 1st bespoke suite at the Primary Haus (more about this tailor in near future). They introduced the new way of educating about Classic Menswear which make me feel less intimidated with their easy going & down-to-earth character.

Focus on:

Covering from the basic of all items related to the Classic Menswear to the total Vintage & Rugged style (if you prefer) with the all technical terms which are very useful. Khun Pae & Khun Mac also take us to know where to find and how to choose the latest products up until the well-selected second hand stores (both brick & mortar store & in social media). They covered from renowned world class to the famous local Thai tailors.

Playlists in hi-light:

Must try ‘Suit & Jacket’, ‘Classic Wear How-to’, Fitting Room’, ‘Classic Menswear Second Hand stores Series’

My opinion & recommendation:

With their sense of humor, you will never get bored watching this channel and yet get to know more about Classic Menswear and definitely get tons of inspiration. Learning about Classic Menswear has never been easier with Signore Closet.

My Final Thought

Today there are more YouTube channels about Classic Menswear Style which I cannot mention them all here. But they are equally interesting and worth visiting which I highly recommend.
Lastly, please leave your comments or let me know what you guys think. Any opinion/recommendation are very welcome here.

Please consider to support my works by visiting & following my IG account @mickyjicky

Thank you & See you on the next post!!